4โรคเสี่ยงเป็นคุกคามจากรสชาติอาหารจากการกินที่ไม่ระวัง
“เกลือ” คือสารประกอบทางเคมีที่เรียกว่า “โซเดียมคลอไรด์” และคนทั่วไปมักจะเรียก “เกลือแกง” ที่ใช้ประกอบอาหารว่าโซเดียมคลอไรด์ โซเดียมเป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่ร่างกายต้องการ และร่างกายไม่สามารถผลิตโซเดียมได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เกลือทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้น กินมากๆลิ้นจะคุ้น จะชิน ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ
คนเราควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน (หรือ 1 ช้อนชา) ส่วนคนที่มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรเกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ปัจจุบันคนไทยบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงกว่าที่ร่างกายต้องการถึง 2 เท่า หรือวันละ 4,000 มิลลิกรัม จากพฤติกรรมต่างๆ เช่น ปรุงก่อนชิม กินอาหารตามร้านและที่บ้านที่ใช้ผงปรุงรสปรุงอาหาร บริโภคอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป สัปดาห์ละหลายครั้ง
ยกตัวอย่างบะหมื่กึ่งสำเร็จรูป 1ห่อ แบบห่อปกติมีปริมาณโซเดียมถึง1600มิลลิกรัมถ้าเป็นห่อจัมโบ้ก็จะยิ่งมีปริมาณโซเดียมเพิ่มขึ้นอีกค่ะ
ถึงแม้ “โซเดียม” จะมีความสำคัญต่อร่างกาย แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปกลับมีผลเสียต่อสุขภาพ และส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ หลายโรค เช่น
1.)โรคความดันโลหิตสูง คนไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่า 11 ล้านคน
2.)หัวใจวาย คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดปีละ 4 หมื่นคนหรือวันละ108 คน
3.)อัมพฤกษ์ อัมพาต คนไทยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มากกว่า 5 แสนคน การกินเค็มจัดทุกวัน มีโอกาสสูงที่หลอดเลือดสมองจะตีบตันหรือแตก ทำให้เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
4.)ไโรคไตวายเรื้อรัง คนไทยเป็นโรคไต มากกว่า 7.6 ล้านคน มีการประเมินค่าใช้จ่าย “ฟอกเลือดล้างไต” คนละประมาณ 2 แสนบาทต่อปี ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งจากการเดินทางไปสถานพยาบาลและค่าเสียเวลาอื่นๆ (ลูกหลานต้องหยุดงานเพื่อพาผู้ป่วยไปฟอกเลือดล้างไต)
จะเห็นได้ว่าการบริโภคโซเดียมมากไปเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่ปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร “โซเดียม” จึงกลายเป็นตัวอันตรายในอาหาร หากบริโภคอย่างไม่ระมัดระวัง
สอบถามสุขภาพ และ รับข้อมูลดีๆ
แอดไลน์คลิ๊ก
หรือ คลิ๊ก http://line.me/ti/p/~oui7288
การป้องกันและควบคุมโรคเสี่ยงเหล่านี้นอกจากการควบคุมการกินเค็มแล้ว เราสามารถควบคุมโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือฟื้นฟูป้องกันโรคเหล่านี้ได้เช่นกัน