วิธีป้องกันโรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตก
โรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตก มักเกิดจากความผิดปกติของผนังหลอดเลือดที่ผนังหลอดเลือด
ผนังหลอดเลือดประกอบด้วยชั้นของผนัง 3 ชั้น
1.ผนังชั้นในสุด
2.ผนังชั้นกลาง ประกอบด้วยล้ามเนื้อเรียบ, เนื้อเยื่ออิลาสติก ชั้นนี้เรียงเป็นวง
3.ผนังชั้นนอก ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบ, เส้นใยอิลาสติกและ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ชั้นนี้เรียงไปตามยาวของเส้นเลือด
โรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตกเกิดจากผนัหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น จากหลากหลายสาเหตุ เช่นความเครียด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง กรรมพันธุ์ เช่นกลุ่มอาการ Marfan (ซึ่งจะมีความผิดปกติหลายระบบคือ มีรูปร่างสูงผอม แขนขาและ นิ้วยาว เพดานปากสูง สายตาผิดปกติ มีโรคลิ้นหัวใจรั่วร่วม) สูบบุหรี่ น้ำหนักตัวเกิน การติดเชื้อในกระแสเลือด โรคปอดเรื้อรัง
การรักษาโรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตก
ทำได้ด้วยการรักษาทางยาในกรณีที่ขนาดยังไม่ใหญ่มาก การทำผ่าตัดเปิดทางหน้าท้องเพื่อหนีบหลอดเลือดแดงใหญ่เหนือบริเวณโป่งพอง ซึ่งต้องทำด้วยความรวดเร็วและชำนาญเป็นอย่างมากและต้องทำในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในเรื่อง การให้เลือดและส่วนประกอบของเลือดชดเชยการเสียเลือด การผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมหรือขดลวดแทนบริเวณที่ปริแตก
ภาพการใส่เส้นเลือดเทียมและขดลวด
ภาพการหนีบเส้นเลือด
การหนีบเส้นเลือดเพื่อป้องกันการช๊อคจากเลือดออกในช่องท้องต้องระวังการเป็นอัมพาตจากการขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณกระดูกสันหลังด้วย หรืออาจทำให้อวัยวะสำคัญอื่นอาจจะขาดเลือดไปเลี้ยงก็เป็นอันตรายได้อีกหลายส่วนค่ะ
อาการหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพองปริแตกในช่องท้อง
อาการที่เกิดคือจะปวดท้องร่วมกับปวดหลัง คลำได้ก้อนในช่องท้องในคนอ้วนจะคลำลำบากสักหน่อย
เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่วงเริ่มต้นจะไม่มีอาการแสดง จนเส้นเลือดแดงโป่งพองมากไปจนไปกดทับอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดอาการปวดแน่นท้อง
โรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตกอาจเกิดขึ้นได้ในช่องอกหรือทรวงอกก็ได้ จะมีอาการแน่นหน้าอก ปวดหลัง หน้ามืดหมดสติ หรือไอเป็นเลือด หายใจลำบาก กลืนลำบาก ทำให้เสียงแหบได้
การป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตกทำได้ดีที่สุดคือการลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคในทุกสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคดังกลา่วไปแล้วข้างต้น ความเสี่ยงที่เป็นอยู่ทำให้มีเปอร์เซนต์ความเสื่อมของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
การตรวจเพื่อวินิจฉัยเป็นประจำจึงมีความจำเป็นเช่นเอ็กเรย์ปอด อัลตร้าซาวด์ในช่องท้อง ตรวจดูการทำงานอวัยวะภายใน หัวใจ ไต ตับ การตรวจด้วยวิธี CT scan
เราควรดูแลหลอดเลือดให้มีความยืดหยุ่นซึ่งทำได้ด้วยการออกกำลังกาย กควรทานอาหารหรือรับสารอาหารเพื่อฟื้นฟูหลอดเลือดเพื่อป้องกันอันตรายในอนาคตกันคะ